นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

       โปรดอ่านประกาศความเป็นส่วนบุคคลฉบับนี้ (“ประกาศ”) อย่างละเอียด เนื่องจากข้อตกลงฉบับนี้ทำขึ้นและมีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างบริษัท พลีสเพ็ทส์ จำกัด (ซึ่งในประกาศฉบับนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) และท่านในฐานะผู้ใช้บริการเว็บไซต์ https://www.pleasepets.co (ซึ่งในประกาศฉบับนี้จะเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ผู้ใช้บริการ”)

       เนื่องด้วยบริษัทอาจได้รับข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) และเพื่อให้การจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด

      1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

      บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังนี้

      1.1ข้อมูลส่วนบุคคลจากการใช้บริการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ 

           (1) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ได้แก่ ชื่อและนามสกุล 

           (2) ข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลแอดเดรส

           (3) ข้อมูลอื่นใดที่ท่านได้แจ้งแก่บริษัท (ถ้ามี)

      1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลด้านการเงิน

      ข้อมูล หลักฐาน และรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระค่าสินค้า ประวัติการชำระเงิน วิธีการชำระเงิน และหลักฐานการชำระเงิน ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารและบัตรเครดิต/เดบิต เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ประเภทบัตร หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต ชื่อธนาคารพาณิชย์ของบัญชีธนาคาร ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ที่ผูกกับบัตรเครดิต/เดบิต หมายเลขหลังบัตร (CVV) เป็นต้น

      1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลด้านบัญชีผู้ใช้งาน

            (1) ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้งาน ได้แก่ ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์

            (2) ข้อมูลของบัญชีสื่อโซเชียลมีเดียที่ใช้ในการลงทะเบียนใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท (ถ้ามี) เช่น Facebook, Google, Line

      1.4 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ได้แก่

            (1) ข้อมูลการติดต่อสื่อสารและทำกิจกรรมกับบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสอบถามผ่านทางช่องทางของบริษัท เป็นต้น

            (2) การบริหารจัดการด้านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งมีท่านเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือปรากฎเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ของบริษัท (ถ้ามี)

 

      2. วิธีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

      2.1 การจัดเก็บโดยตรง

      บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการจัดเก็บโดยตรงจากผู้ใช้บริการ โดยท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทโดยตรงผ่านขั้นตอนการสมัครใช้บริการ การติดต่อกับบริษัท การสอบถามข้อมูล การกรอกแบบฟอร์ม 

การร้องเรียน การร่วมกิจกรรม การทำแบบสำรวจความคิดเห็น (Survey) หรือการให้ความเห็น/คำติชมแก่บริษัท โดยอาจเป็นการให้ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และกระดาษ

      2.2 การจัดเก็บโดยอัตโนมัติ

      บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ท่านใช้ ระบบปฏิบัติการ ข้อมูลกิจกรรม รูปแบบการเข้าใช้งาน พื้นที่การใช้งาน ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) หรือข้อมูลเทคนิคอื่นใด โดยอาศัยการจัดเก็บผ่านการใช้งานคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน โดยท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการใช้คุกกี้ของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท

      3. วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (“การประมวลผลข้อมูล”) เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า “วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล”)

วัตถุประสงค์/กิจกรรม

ฐานการประมวลผลข้อมูล

1.การบริหารจัดการเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ

การดำเนินการเกี่ยวกับการลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้บริการ การบริหารจัดการด้านผลิตภัณฑ์และบริการ การประสานงาน การติดต่อสื่อสาร และการดำเนินงานอื่นใดตามขั้นตอนของบริษัทเพื่อให้บริการแก่ท่านตามสัญญาข้อตกลงการใช้บริการระหว่างท่านและบริษัท โดยรวมถึงสัญญาหรือข้อตกลงอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับข้อตกลงการใช้บริการดังกล่าวด้วย

ฐานสัญญา และฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

2. การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร 

การแจ้งข้อมูลหรือนำเสนอข่าวสารแก่ท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ การโฆษณา การส่งเสริมการขาย เหตุการณ์สำคัญ หรือกิจกรรมอื่นของบริษัท รวมถึงการเชิญชวนเข้าร่วมงาน กิจกรรม หรือโครงการอื่นของบริษัท โดยแจ้งผ่านทางช่องทางที่ท่านตกลงอนุญาต เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลแอดเดรส เป็นต้น

ฐานความยินยอม

3. การทำการตลาดเฉพาะบุคคล

การวิเคราะห์และการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อจัดทำและนำเสนอโฆษณา ข้อเสนอ หรือรายการส่งเสริมการขายแก่ท่านในลักษณะของการทำการตลาดหรือการโฆษณาแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) ซึ่งรวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างนิสัยกับพฤติกรรม ความชอบ ความคิดของท่าน

ฐานความยินยอม

4. การบริหารจัดการด้านสื่อโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ 

การจัดการด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบริษัทหรือผลิตภัณฑ์ บริการ หรือกิจกรรมของบริษัทซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณาหรือสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท

ฐานความยินยอม

5. การจัดกิจกรรมและการประกาศรางวัล

การดำเนินการตามขั้นตอนของบริษัทเพื่อบริหารจัดการกิจกรรมที่ท่านได้เข้าร่วม ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลของท่านตามหลักเกณฑ์ของกิจกรรมดังกล่าว การพิจารณาคุณสมบัติ การตรวจสอบ การเปรียบเทียบ การตัดสิน การประกาศผลกิจกรรม การมอบรางวัล การติดต่อสื่อสาร การประสานงาน และการดำเนินการอื่นใดเพื่อการจัดกิจกรรมที่ท่านได้เข้าร่วม

ฐานความยินยอม และฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

6. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

การดำเนินการเพื่อประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ และข้อมูลของท่านและบริษัท ซึ่งรวมถึง

(1) การตรวจสอบ ทดสอบ และดำเนินการเพื่อพัฒนามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ และข้อมูลของท่านและบริษัท การจัดการและการคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

(2) การตรวจสอบ ตรวจจับ และดำเนินการเพื่อป้องกันการเข้าถึงระบบสารสนเทศ และข้อมูลของท่านและบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

     

      4. การจัดเก็บและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เหมาะสม และสอดคล้องกับระดับความลับของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลประเภทข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งกรณีที่เป็นการจัดเก็บในรูปแบบเอกสารกระดาษและอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ พนักงานทุกคนของบริษัทจะยึดถือปฏิบัติตามแนวทางรักษาความปลอดภัยที่บริษัทกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยบริษัทอนุญาตให้มีการเข้าถึงและใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะพนักงานและบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล

        5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาการใช้บริการของบริษัท และจัดเก็บต่อไปอีก 5 ปี นับจากการยุติความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท โดยบริษัทจะจัดให้มีการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว หรือเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งจากหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงการบังคับใช้สิทธิตามกฎหมายหรือสัญญาตามที่บริษัทเห็นสมควร

       6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนของท่านแก่บุคคลภายนอกภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล โดยบุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่

      6.1 บุคลากรของบริษัท

      บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลตามประกาศฉบับนี้ โดยบริษัทจะจำกัดเฉพาะบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงและเปิดเผยแก่บุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นตามหลักรู้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น (Need to Know Basis)

      6.2 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทและบุคคลทั่วไป 

      ในกรณีที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรายอื่น หรือบุคคลทั่วไปเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว เช่น การประกาศผลการจัดอันดับของผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับรางวัลจากกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ (เช่น สื่อโซเชียลของบริษัท) เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลของท่านเท่าที่จำเป็นและจะขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

       7. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

      ท่านมีสิทธิในการร้องขอให้บริษัทดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

      7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access) 

      สิทธิในการขอเข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม 

      7.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification) 

      สิทธิขอตรวจสอบ เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน โดยไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

      7.3 สิทธิในการคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)

      สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวในกรณีดังต่อไปนี้

            (1) กรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะในการประมวลผลข้อมูล เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทสามารถแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกข้อต่อสู้ตามกฎหมาย

            (2) การประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ของการตลาดแบบตรง

      7.4 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)

      ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้

      7.5 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)

      ในกรณีที่บริษัทอาศัยความยินยอมของท่านเป็นฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมแล้ว 

      7.6 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)

      สิทธิในการขอให้บริษัทลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีดังต่อไปนี้

              (1) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลแล้ว

              (2) ท่านขอถอนความยินยอมที่เป็นฐานในการประมวลผลข้อมูล และบริษัทไม่มีอำนาจหรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวอีกต่อไป

              (3) ท่านได้คัดค้านการประมวลผลตามข้อ 7.3

              (4) เมื่อมีการประมวลผลข้อมูลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

      7.7 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)

      สิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้

              (1) บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

              (2) กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามข้อ 7.6 แต่ท่านประสงค์ให้ระงับการใช้แทน

              (3) บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป แต่ท่านมีความจำเป็นและขอให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

              (4) บริษัทอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ตามข้อ 7.3 (1)  หรือตรวจสอบตามข้อ 7.3 (3) เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของท่านตามข้อ 7.3

      7.8 สิทธิในการร้องเรียนหน่วยงานกำกับดูแล (Right to File Complaint)

      ในกรณีที่บริษัท ลูกจ้าง หรือพนักงานของบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้

 

       8. การใช้สิทธิและการติดต่อ

      ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทหรือประสงค์ใช้สิทธิของตนตามข้อ 7 ให้ท่านดำเนินการติดต่อมาที่ 

ชื่อบริษัท

บริษัท พลีสเพ็ทส์ จำกัด

สถานที่ติดต่อ

เลขที่ 59/5 ซอยรามคำแหง 21 เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

ช่องทางการติดต่อ

อีเมล: hello@pleasepets.co

      โดยบริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบยืนยันตัวตนของท่านก่อนการดำเนินการตามคำร้องใช้สิทธิและจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่านโดยไม่ชักช้าภายในสามสิบ (30) วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องดังกล่าว เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการตามคำร้องขอนั้นก่อให้เกิดภาระแก่บริษัทเกินสมควร หรือเป็นกรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำร้องดังกล่าวได้ หรือเป็นการเสี่ยงต่อการละเมิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอ

 

       9. ผลการกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

      9.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลโดยอาศัยฐานสัญญาและฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อบริษัทในการปฏิบัติตามสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล ในกรณีที่ท่านปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล เช่น ท่านอาจไม่สามารถสะสมคะแนนจากการสั่งซื้อสินค้าจากทางบริษัท หรือไม่ได้รับของที่ระลึกจากบริษัท เป็นต้น จนกว่าท่านจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นแก่บริษัทอย่างครบถ้วนสมบูรณ์   

      9.2 ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูล อาจส่งผลให้ท่านถูกจำกัดสิทธิบางอย่าง หรือส่งผลให้บริษัทอาจไม่สามารถบริหารจัดการหรือดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลที่ท่านได้ปฏิเสธหรือเพิกถอนความยินยอมได้อย่างสมบูรณ์หากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการดำเนินการนั้น

      10. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนบุคคล

      บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลของท่านและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ หากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นการกำหนดวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลเพิ่มเติม บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านก่อนการประมวลผลข้อมูลตามวัตถุประสงค์นั้นสำหรับกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม อย่างไรก็ตามท่านเข้าใจเป็นอย่างดีและยอมรับว่าเป็นหน้าที่ของท่านในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของประกาศความเป็นส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว

ประกาศใช้เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568
ปรับปรุงล่าสุด วันที่ 25 เมษายน 2568